กูปรี (Bos sauveii) เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับกระทิงและวัวแดง ชาวลาวเรียกว่า วัวเขาเกลียว ชาวเขมรเรียกว่า กูปรีหรือโคไพร ลักษณะพิเศษของมันคือ ตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยจะมีปลายเขาแตกเป็นพู่ ส่วนตัวเมียเขาเป็นวงเกลียว ชอบกินหญ้าและใบไม้เป็นอาหาร พบในประเทศไทย ลาว เขมร และเวียตนามเท่านั้น | |
ละองหรือละมั่ง (Cervus eldi) ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็กๆ ออกหากินทั้งกลางวันและกลางคืน กินใบไม้ใบหญ้า และผลไม้เป็นอาหาร ปัจจุบันไม่พบในประเทศไทย แต่ยังมีหลงเหลืออยู่บริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา แถบเทือกเขาพนมดงรัก และชายแดนไทย-พม่า แถบเทือกเขาตะนาวศรี เท่านั้น | |
เก้งหม้อ (Muntiacus feai) เป็นเก้งที่มีสีคล้ำกว่าเก้งธรรมดา ชอบอาศัยอยู่เดี่ยวๆ ในป่าดงดิบตามลาดเขา จะอยู่เป็นคู่ในฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น กินหญ้า ใบไม้และผลไม้เป็นอาหาร พบบริเวณชายแดนไทย-พม่า และภาคใต้ของไทย เป็นสัตว์ที่หายาก | |
นกกระเรียน (Grus antigone sharpii) จัดอยู่ในตระกูลนกบินได้ขนาดใหญ่ที่สุด สูงประมาณ 150 ซ.ม. พบตามหนอง บึง และท้องทุ่ง หากินเป็นคู่และกลุ่มครอบครัว กินแมลง สัตว์น้ำ สัตว์เลื้อนคล่น พืชน้ำและเมล็ดพืชเป็นอาหาร ปัจจุบันไม่พบในประเทศไทย | |
สมเสร็จ (Tapirus indicus) เป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน มีจมูกเหมือนงวงช้าง รูปร่างเหมือนหมู และมีเท้าเหมือนแรด จึงมีชื่อเรียกว่า ผสมเสร็จหรือสมเสร็จ มักหากินตามที่รกทึบ พบที่บริเวณป่าชายแดนไทย-พม่า ตลอดลงไปจนถึงภาคใต้ของไทย |